เรื่องมันก็มีอยู่ว่าคุณสามีต้องออกไปทานมื้อเย็นนอกบ้านและคุยเรื่องงานกับเพื่อน (เอ๊ะ!! คุยงานจริงรึป่าวหว่า? ฮะฮะฮะ) ได้โอกาสอาสาทำของหวานให้ เรื่องของเรื่องคือไม่อยากทำแล้วทานเอง น้ำหนักชักขึ้นซะแล้ว เราจึงทำให้คนอื่นทานจะดีกว่า แผนสูงไปไหมเนี่ย เนื่องจากเป็นคนชอบทำชีสเค้กอยู่แล้วประกอบกันที่บ้านช็อคโกแลตเหลือบานเลย ค้นเจอเมนูนี้เข้าจากเว็ป www.giallozafferano.it เห็นรูปแล้วน่ารักดูดีมีชาติตระกลู ฉะนั้นเราลองทำตามกันเลยดีกว่า เอ้ามาดูว่าส่วนผสมมีอะไรบ้าง ส่วมผสมอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความชอบของแต่ละคนนะคะ ส่วนตัวมีการเติมซาวครีมลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความนุ่มของเนื้อครีมชีสด้วย
ส่วนผสมตัวฐานเค้ก (พิมพ์กลมถอดได้ขนาด 22-24 นิ้ว)
- คุ้กกี้ช็อคโกแลต 200 กรัม (หรือจะใช้โอรีโอ้ก็ได้)
- เนยสด 100 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมตัวครีมชีส
- ดาร์คช็อคโกแลต 50 กรัม
- ช็อคโกแลตนม 50 กรัม
- ไวท์ช็อคโกแลต 50 กรัม
- ครีมชีส Philadelphia 750 กรัม (เราแอบใช้แบบไขมันต่ำ ช่วยลดความอ้วนได้นิดนึง)
- เจลาตินแผ่น 9 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 60 กรัม
- วิปปิ้งครีม 200 มิลลิลลิตร
- ซาวครีม 250 กรัม (ใครไม่มีไม่ใส่ก็ได้)
- ของตกแต่งหน้าเค้กตามใจชอบ
วิธีทำตัวฐานเค้ก
- นำคุ้กกี้ช็อคโกแลต หรือโอรีโอ้ไปบดในโถปั่นให้พอละเอียดแต่ไม่ละเอียดมาก หากใครไม่มีจะใช้วิธีใส่ถุงพลาสติกแล้วเอาที่นวดแป้งบดเอาก็ได้แต่ใช้เวลาหน่อย
- เอาเนยสดไปละลายในไมโครเวฟ แล้วนำไปผสมกับคุ้กกี้ที่เราบดไว้ให้เข้ากัน
- เติมน้ำตาลทรายแดงลงไป คนให้เข้ากัน ถ้าคุ้กกี้ที่ใช้หวานอยู่แล้วก็ไม่ต้องเติมน้ำตาล
- เอาไปเทลงในพิมพ์ที่ถอดได้ขนาด 22-24 ซม.ที่กรุด้วยกระดาษไขทั้งด้านข้างและฐานเรียบร้อยแล้ว ใช้ช้อนกดให้แน่นเรียบเสมอกัน นำเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 30 นาที จากนั้นหันมาทำตัวครีมชีสกัน
**ส่วนตัวชอบแบบเอาเข้าอบ 180 °C สัก 12-15 นาที แล้วพักไว้ให้เย็น กลิ่นจะหอมกว่าแล้วตัวฐานจะยังคงมีความกรุบกรอบอยู่เวลาทานจะเพลินมาก
วิธีทำครีมชีส
- ในเว็ปจะเห็นว่าเค้าจะแยกตีครีมชีสออกเป็นสามส่วน แต่เราขี้เกียจเลยตีทั้งหมดทีเดียวเลยเดี๋ยวค่อยไปแยกตอนจะใส่ช็อคโกแลต ก่อนอื่นเอาครีมชีสทิ้งไว้ให้หายเย็นก่อน จากนั้นเทใส่อ่างผสมใช้ตะกร้อตีให้ครีมชีสเป็นเนื้อเดียวกัน
- ใส่ซาวครีมลงไปแล้วผสมให้เข้ากัน (อันนี้ใครจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) จากนั้นแบ่งออกเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน
- นำเจลาตินแช่ในน้ำเย็นจัดจนนุ่ม
- นำวิปปิ้งครีมไปอุ่นให้ร้อน แล้วยกลงใส่เจลาตินลงไป คนให้ละลายเข้ากัน แล้วทิ้งไว้ให้อุ่น
- นำวิปปิ้งครีมผสมเจลาตินที่อุ่นๆ ค่อยๆ เทใส่ครีมชีสที่เราเตรียมไว้แล้วพร้อมกับคนไปเรื่อยๆ จนหมด
- หันมาละลายช็อคโกแลต ใครถนัดใช้ไมโครเวฟก็ใช้ไป ส่วนตัวถนัดละลายบนน้ำเดือด
- เทดาร์คช็อคโกแลต ช็อคโกแลตนม และไวท์ช็อคโกแลตลงไปในส่วมผสมครีมชีสที่แบ่งไว้ให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
- เติมน้ำตาลไอซิ่งลงไปในครีมชีลที่ผสมช็อคโกแลตแล้วตามแต่ความชอบของเรานะคะ ลองชิมดูก่อนหากชอบหวานมากก็เติมมาก เพราะช็อคโกแลตมีความหวานอยู่ในตัวอยู่แล้ว
- นำครีมชีสเทลงบนฐานที่เตรียมไว้โดยเริ่มจากชั้นดาร์คช็อคโกแลตก่อน เสร็จแล้วเคาะให้ฟองอากาศออกนิดหน่อย จากนั้นนำเข้าตู้เย็น 15-20 นาทีให้ด้านหน้าครีมเซ็ตตัวก่อน
- ค่อยๆ ราดครีมชีสชั้นช็อคโกแลตตามลงไป เอาเข้าตู้เย็นเหมือนชั้นแรก สุดท้ายชั้นไวท์ช็อคโกแลต แล้วเอาเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนตัดเสิร์ฟนะคะ
- ตกแต่งหน้าชีสเค้กสักหน่อยแล้วแต่ความชอบ ที่เห็นในรูปเราโรยหน้าด้วยช็อคโกแลตผสมถั่ว ราดด้วยคาราเมล เพิ่มความหอมของน้ำตาลไหม้เข้าไปอีก
หลังจากเอาเข้าตู้เย็นเกิน 4 ชั่วโมงแล้วของแกะพิมพ์ถ่ายรูปสักหน่อย ก่อนที่คุณสามีจะเอาไปทานที่บ้านเพื่อน รูปแสงไม่สวยเลยเพราะใช้แฟลช ทำงัยได้เนอะมันเป็นเวลากลางคืนแล้วนี่นา แต่เราแอบทำมินิชีสเค้กด้วยนะ เผื่อเด็กๆ ที่บ้านเอาไว้ทานเป็นของว่าวันพรุ่งนี้
หมายเหตุ ซาวครีมหรือที่อิตาลีเค้าจะเรียกว่า Panna acida เราเตรียมเองก่อนที่จะทำชีสเค้กประมาณ 2 ชั่วโมง บางคนทำไว้ตอนกลางคืนพรุ่งนี้เช้าใช้งานก็ได้ เอ้า!!มาดูว่าเตรียมเองที่บ้านทำยังงัย
ส่วนผสมซาวครีม
- โยเกิร์ตกรีก 120 กรัม
- วิปปิ้งครีม 120 กรัม
- เลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
แสนจะง่ายดาย เอาทุกอย่างเทรวมกันแล้วคนให้เข้ากันเป็นอันเสร็จ นำเข้าตู้เย็นรอไว้ใช้งานได้เลย อ้อ !! เจ้าโยเกิร์ตกรีมหน้าตาจะเหมือนโยเกิร์ตรสธรรมชาตินี่แหล่ะค่ะ เพียงแต่จะเนื้อโยเกิร์ตจะข้นกว่านิยมเอามาทำขนมหรือว่าทำซอสต่างๆ มากว่าเอาไว้ทานเฉยๆ หาซื้อง่ายตามซุปเปอร์ฯ ก็มี
หลังจากคุณสามีเอาไปทานที่บ้านเพื่อนแล้วผลตอบรับที่ได้ มีแต่คนว่าเค้กสวยน่ารักอร่อยไม่หวานเลี่ยน เนื้อนุ่ม เหมือนชมตัวเองมากไปรึป่าวหว่า แต่คุณสามีติว่าน่าจะหวานกว่านี้นิดนึงชีสเค้กตัวนี้ต้องทานทั้งสามรสในคำเดียวถึงจะได้รสทั้งขมดาร์คช็อคโกแลตและรสหอมหวานในช็อคโกแลตนม และไวท์ช็อคโกแลต แถมด้วยความหอมกรอบของคุ้กกี้ที่ตัวฐานด้วย ลองทำกันดูนะคะวิธีทำไม่ยากเพียงแต่ขั้นตอนเยอะนิดนึง รับรองไม่ผิดหวังจ้า
จะขอสูตรไปลองทำดูนะค่ะ. น่าทานจัง
สูตรนี้อร่อยค่ะ แต่อาจจะเป็นของหวานที่หนักไปสักหน่อยจะทานได้ไม่เยอะ นานๆ ทำทานทีได้ แต่ทานบ่อยๆ ก็อ้วนค่า