หลังจากได้ปล่อยภาพเค้กสูตรนี้ออกไป ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนคนไทย หรือคนอิตาลีก็ถามหาแต่สูตร กะจะเอาไปลองทำที่บ้านกันดู มันเป็นเค้กที่ทำไม่ยากนะเราว่า แต่ขั้นตอนมันเยอะ เรียกได้ว่าทำกันหลายชั่วโมงเลย วันเทศกาลอีสเตอร์ที่ผ่านมาเราได้รับมอบหมายให้ทำของหวานไปทานที่บ้านญาติ ซื่งมีทั้งหมด 16 ท่าน คิดว่าจะทำอะไรดี ที่ไม่หนักท้องจนเกินไป เพราะคิดว่าวันนั้นจะต้องมีของกินเยอะมากแน่ๆ กว่าจะมาถึงของหวานเราไม่รู้ว่าจะทานกันไหวรึป่าว ฉะนั้นคิดว่าน่าจะทำอะไรที่ทานล้างปาก (เค้าเรียกว่างั้นอะนะ) ทานแล้วรู้สึกสดชื่น มันน่าจะเป็นผลไม้ท่าจะดี เปิดดูรูปเค้กในเน็ตไปเรื่อยๆ ก็ไปเค้กภาพนี้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เรา แต่เค้าไม่ได้มีสูตรมาให้ เราต้องหาสูตรและปรับเอามาใช้กับความรู้ที่เรามี ให้ได้ออกมาใกล้เคียงที่สุด
เป็นภาพจากโฆษณาโรงเรียนสอนทำขนมแห่งนึง
เป็นเค้กญี่ปุ่น รสชาติเป็นยังงัย ทำจากอะไรก็ไม่รู้
แต่ดูแล้วชอบเลย เอ้า!! เรามาลองทำดูสูตรตามใจเรากันเลยดีกว่า
ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะคะสูตรที่พาทำในวันนี้ ไม่ใช่สูตรขนมที่อยู่ในภาพนะคะ
ส่วนผสมตัวสวิสโรล (สูตรจากส้มซ่าดอทคอม)
- แป้งเค้ก 150 กรัม (ที่บ้านไม่มีเลยใช้แป้งสาลีเอนกประสงค์แทน)
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- นมผง 1/4 ถ้วย (ประมาณ 30 กรัม)
- น้ำตาลทราย 170 กรัม (เราใช้ประมาณ 150 กรัม)
- ไข่ไก่ 6 ฟอง
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- สาร SP 10 กรัม (ถ้าไม่มีไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
- เนยละลาย 75 กรัม (บางคนใช้น้ำมันพืชแทน)
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย (ประมาณ 56.2 กรัม เราใช้น้ำส้มคั้นแทน)
- กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
- เปลือกส้มขูด 1 ผล
ในรูปสตรอว์เบอร์รี ไม่เกี่ยวกับการทำตัวสวิสโรลนะคะ
ขั้นตอนการทำสวิสโรล
- เตรียมปูกระดาษไขรองถาดไว้รอเลย วันนี้เราใช้ถาดขนาด 14 x 16 นิ้ว หากใครไม่มีใช้ถาดเล็กก็ได้ แต่ต้องใช้หลายถาดหน่อยนะคะ เราต้องการทำตัวเค้กที่ไม่หนามากเลยใช้ถาดใหญ่ แล้วก็ร่อนแป้ง ผงฟู และนมผงรวมกัน พักไว้ก่อน อ้อ….เกือบลืมอุ่นเตาอบไว้รอที่ 200 c° ระบบไฟบน-ล่าง
- นำไข่ไก่ น้ำส้ม เกลือ น้ำตาล และสาร SP ใส่รวมกันในอ่างผสมแล้วตีด้วยตะกร้อ (วันนี้ขอใช้เครื่องมือช่วยนะคะ) ตีด้วยความเร็วต่ำให้แค่ส่วนผสมเข้ากัน มีฟองขึ้นหยาบๆ (ภาพสุดท้ายนึกขึ้นได้ลืมถ่ายรูปก่อนใส่แป้ง มีแอบใส่ลงไปบ้างแล้วค่อยถ่ายฮะฮะ)
- จากนั้นใส่แป้งที่ร่อนเอาไว้ทั้งหมดลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำๆ ก่อน เดี๋ยวแป้งจะฟุ้งกระจาย ตีให้พอเข้ากัน แล้วเพิ่มความเร็วสูงสุดตีต่ออีก 4-5 นาที จนไข่ขึ้นฟูและส่วนผสมดูเนียนข้นขึ้น สุดท้ายลดความเร็วลงตีต่อเพื่อไล่ฟองอากาศอีก 1 นาที
- ใส่เปลือกส้มขูด และเนยละเลยลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลางพอเข้ากัน หากใครอยากให้มีสีสัน ก็แบ่งส่วนผสมออกมาใส่สีลงไปผสมให้เข้ากันแค่นี้ก็ได้เนื้อเค้กที่มีสีตามใจชอบแล้ว แต่วันนี้เราไม่ใส่สีนะคะ
- เทส่วนผสมใส่ถาด 2 ถาดที่เตรียมไว้แล้ว แต่เราเทถาดนึงบางกว่าอีกถาดเพราะต้องการนำมาม้วนให้เป็นโรลชิ้นเล็กๆ ปาดหน้าให้เรียบเสมอกัน เคาะถาดเบาๆ ไล่ฟองอากาศใหญ่ๆ ออกไปสักหน่อย แล้วนำเข้าอบได้เลย เราใช้เวลาประมาณ 6-8 นาที เพราะทำถาดใหญ่แป้งบางประมาณ 1 ซม. เลยสุกเร็ว หากใครทำแป้งหนากว่านี้ต้องเอานานขึ้นนะคะ แต่ไม่น่าจะเกิน 10 นาที อันนี้ก็แล้วแต่เตาอบที่บ้านด้วยนะ
- พอขนมสุกนำออกมาจากเตา ถาดที่หนากว่านำมาคว่ำลงตะแกรงลอกกระดาษไขออกพักไว้ให้เย็น ส่วนอีกถาดนึงที่บางกว่าคว่ำลงบนตะแกรงจากนั้นคว่ำกลับไปบนผ้าแล้วม้วนเบาๆให้เป็นโรลระวังแตกนะคะ พักไว้ให้เย็นในผ้าเลย เอาหละตอนนี้เรามีส่วนแป้งเค้กแล้ว 2 ส่วนนะคะ
ระหว่างรอให้ตัวเค้กเย็น เราก็หันไปทำครีมโยเกิร์ตกันดีกว่า
ทำง่ายมากเลย ไปดูกันว่าจะต้องซื้ออะไรมาบ้างนะคะ
ส่วนผสมครีมโยเกิร์ต
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 500 มิลลิลิตร
- โยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี่ 500 มิลลิลิตร
- โยเกิร์ตมิกซ์เบอร์รี่ 150 มิลลิลิตร
- วิปปิ้งครีม 500 มิลลิลิตร
- นมสด 20 มิลลิลิตร
- เจลาตินแผ่น 20 กรัม
- เลมอน 1 ผล (เอาไว้เพิ่มความเปรี้ยวได้ตามใจชอบจ้า)
- น้ำตาลไอซิ่ง แล้วแต่ว่าใครชอบหวานแค่ไหน หรือจะไม่เติมเลยก็ได้
ตอนทำลืมถ่ายรูปเอาไว้ ขออนญาตใช้รูปเก่านะคะ
เปลี่ยนแค่โยเกิร์ตวนิลาไปใช้รสธรรมชาติแทน
วิธีทำครีมโยเกิร์ต
- ก่อนอื่นเอาเจลาตินแผ่นแช่ในน้ำเย็นจัดไว้ให้นิ่ม แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 10 กรัม
- นำวิปปิ้งครีมที่แช่เย็นจัดมาตีให้ขึ้นฟู เราแอบใส่น้ำตาลเล็กน้อยลงไปในขึ้นตอนนี้
- เอาโยเกิร์ตมิกซ์เบอร์รี่เทในชามผสมตามด้วยวิปปิ้งครีม ประมาณ 1/5 ส่วนของที่เรามี ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากันดี ลองชิมดูว่าหวานและเปรี้ยวได้ที่รึยังหากยังก็เติมน้ำตาลไอซิ่ง กับเลมอนลงไป
- เอาขนมส่วนโรลที่เราม้วนทิ้งไว้ในผ้า ค่อยๆ คลี่ออกเบาๆ แล้วเอาครีมโยเกิร์ตมิกซ์เบอร์รี่ของเราปาดลงไปให้หนาประมาณ 1/2 ซม. เหลือขอบไว้สัก 1 นิ้วเวลาม้วนไส้จะได้ไม้ทะลักออกมา เราก็ค่อยม้วนกลับเข้าไปในผ้าเหมือนเดิม เอาเข้าแช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 30 นาทีก่อนนำมาตัดไส้จะได้ไม่ไหลออกหมด เราตัดชิ้นหนาประมาณ 1 ซม. จะได้ทั้งหมดประมาณ 16-18 ชิ้น พักไว้ในตู้เย็นก่อน ถ้าไม่ใช้โยเกิร์ตจะใช้แยมผลไม้เป็นไส้ก็ได้นะคะ จะได้สีที่สวยกว่านี้ ที่เราไม่ใชัเพราะกลัวว่ารสชาติจะหวานโดดขึ้นมาจากส่วนอื่นๆ เค้าเท่านั้นเอง
- เอานมสด 10 มิลลิลิตร ใส่ถ้วยเข้าไมโครเวฟให้ร้อน จากนั้นบีบน้ำออกจากแผ่นเจลาตินส่วนที่หนึ่ง แล้วใส่ลงไปในนมร้อนๆ คนให้ละลายให้หมด
- เทโยเกิร์ตรสธรรมชาติใส่ชามผสม จากนั้นนำนมสดที่ใส่เจลาตินผสมลงไปแล้วคนให้เข้ากัน พักไว้ก่อน เกือบลืมบอกไปว่าโยเกิร์ตต้องเป็นอุณหภูมิห้องนะคะ ถ้าเย็นมากเดี๋ยวเจลาตินทำงานเร็วไป ยังไม่ทันทำอะไรก็ข้นซะแล้ว
- แล้วแบ่งวิปปิ้งครีมที่เหลือเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน นำครึ่งนึงไปตะล่อมเบาๆ กับโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน (เอารูปเก่ามาลงนะคะ ตอนทำไม่ได้ถ่ายรูปไว้ โยเกิร์ตธรรมชาติเลยออกสีเหลืองไปหน่อย ฮะฮะ)
- พอได้ครีมโยเกิร์ตตามที่ต้องการแล้วเราก็มาประกอบร่างเค้กของเรากัน โดยใช้พิมพ์กลมถอดฐานได้ขนาด 26 ซม.กรุด้วยกระดาษไขไว้ เวลาถอดจะได้ง่ายขึ้นนำแผ่นเค้กมาตัดเป็นวงกลม 2 วง (เนื่องจากพิมพ์เราใหญ่ วงกลมที่ได้เล็กไปหน่อยเลยต้องมีการเติมด้านข้างบ้างอะไรบ้างนะคะ) แผ่นแรกวางไว้ตรงกลางเลย แล้วนำโรลที่เราตัดไว้แล้วมาเรียงด้านข้างให้ชิดกันที่สุด
- นำครีมโยเกิร์ตรสธรรมชาติเทลงไปหมดเลย ปาดให้เรียบเคาะเบาๆ ไล่ฟองอากาศสักหน่อย แล้วเอาเข้าพักในตู้เย็น ประมาณ 15 นาที ให้ครีมเซ็ตตัวสักหน่อยก่อนทำชั้นต่อไป
- ในระหว่างรอให้ชั้นแรกเซ็ตตัวเราก็หันมาทำครีมโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี่กัน ทำเหมือนครีมโยเกิร์ตรสธรรมชาติทุกอย่างเลย ใส่เจลาตินในนมร้อนคนให้ละลายแล้วเทใส่โยเกิร์ต ตะล่อมกับวิปปิ้งครีม ชิมดูว่าได้รสชาติถูกใจรึยัง เป็นอันเสร็จ
- นำเค้กออกจากตู้เย็นวางแผ่นเค้กลงไปเป็นชั้นที่สอง ทาด้วยแยมสตรอว์เบอร์รี่ที่ได้จากการทำเจลลี่สตรอว์เบอร์รี่ราดด้านบน แต่เดี๋ยวจะบอกวิธีทำหลังนี้นะคะค ปิดด้วยเทครีมโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี่ลงไป เคาะเบาๆ ไล่ฟองอากาศ แล้วนำเข้าตู้เย็นพักไว้
ส่วนผสมการทำเจลลี่สตรอว์เบอร์รี่
- สตรอว์เบอร์รี่สด 300 กรัม
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ (แล้วแต่ใครชอบเปรี้ยวมากน้อยนะคะ)
- น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
- เจลาตินแผ่น 6 กรัม
ขั้นตอนการเตรียม
- ล้างสตรอว์เบอร์รี่ให้สะอาดตัดขั้วทิ้งไป แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในหม้อ เติมน้ำเปล่าและน้ำตาลลงไป นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง พอเดือดลดไปลง หมั่นคนเรื่อยๆ เดี๋ยวจะไหม้ที่ก้นหม้อซะก่อน
- ไม่ได้ดูเวลาว่าต้มไปได้นานเท่าไหร่ น่าจะเกือบชั่วโมงนึงได้ จะได้ส่วนผสมคล้ายๆ แยมสตรอว์เบอร์รี่ออกมา ชิมดูว่าหวานได้ที่รึยังต้องเปรี้ยวด้วยนิดนึง ถ่าได้ที่แล้ว นำมากรองเอาแต่น้ำออกมา ส่วนเนื้อสตรอว์เบอร์รี่เราก็เอาไปทาบนเค้กชั้นที่สองของเรา จำกันไว้มั้ยคะ
- ขณะที่น้ำสตรอว์เบอร์รี่ยังร้อนๆ อยู่ให้ใส่แผ่นเจลาตินที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วลงไป คนให้ละลายให้หมด พักไว้ให้คลายร้อนสักหน่อย
- นำไปราดด้านบนเค้กของเราเป็นชั้นสุดท้าย แล้วนำเข้าตู้เย็นพักไว้เลยประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก่อนนำมาตัดทานกัน
จริงๆ เราพักไว้ในตู้เย็นข้ามคืนเลย เพราะจะทานในวันถัดไป
เสียดายตอนเทเจลลี่สตรอว์เบอร์รี่ไม่ได้ทิ้งไว้ให้ฟองอากาศหายไปซะก่อน
เวลาราดจะเห็นเป็นฟองอากาศขาวๆ แบบในรูป
คราวหน้าแก้ตัวใหม่นะคะ ใจร้อนไปหน่อย
ก่อนทานก็แต่งหน้าด้วยผลไม้ต่างๆ ให้สวยงาม
ดูจากด้านนอกไม่รู้เลยว่าด้านในจะมีอีกชั้นอยู่
ตัวเค้กจะเห็นเฉพาะครีมโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี่
พอตัดเค้กออกมาจะเห็นทุกชั้นที่เราเตรียมไว้เลยด้านในเลย
มีแต่คนถามว่าทำยังงัยของสูตรหน่อย
ไม่รู้ว่าพอเห็นขั้นตอนการทำแล้วจะยังอยากทำอยู่รึป่าวฮะฮะฮะ
ตัวเค้กส้มของเราเนื้อนุ่มเบามาก ไม่หวานมากหอมส้มนิดๆ
พอทานทุกชั้นรวมกันจะมีรสเปรี้ยวของเจลลี่สตรอว์เบอร์รี่มาตัด
รสชาติเหมาะกับอากาศร้อนๆ บ้านเรามากๆ
และเค้กจะทานตอนยังเย็นๆ นะคะ
ถ้ามีเวลาลองเอาๆไปทำทานดูนะคะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
ส่วนผสมไม่มีอะไรมาก แค่ขั้นตอนเยอะแค่นั้นเอง