เมือง Città di Castello จังหวัด Perugia
โดยปรกติแล้วช่วงปลายของทุกปีครอบครัวสามีจะพากันไปเยี่ยมบ้านเกิดที่แคว้น Umbria และทุกปีก็จะแวะไปทานที่ร้านนี้เลย Trattoria Lea ตั้งอยู่ที่เมือง Città di Castello ในจังหวัด Perugia เป็นเมืองเล็กๆ มีกำแพงเก่ารอบเมือง ถ้าเราไม่ใช่ชาวเมืองจะต้องจอดรถข้างนอกกำแพง แล้วเดินเข้ามาในเมือง จะไม่ขอเล่าประวัติของเมืองมากนักนะคะ เพราะวันนี้จะพาไปกิน ไม่ได้พาไปเที่ยว เอาหล่ะเรามาเข้าเรื่องร้านอาหารพระเอกวันนี้ของเราดีกว่า ร้านนี้จากที่มาอยู่ที่อิตาลี 4 ปี ไปทานมาแล้ว 3 ครั้ง ประทับใจทุกครั้งเลย โดยเฉพาะใครชอบทานเห็ดนะคะ ที่นี่เลยอร่อย ราคาถูก ปริมาณเยอะ โอ๊ย…อะไรจะดีขนาดนี้ว่ามั๊ยคะ
วันนี้เราจองโต๊ะเป็นอาหารกลางวันนะคะ
หลังจากหาที่จอดรถได้แล้ว ก็เดินเข้ามาในเมือง หาร้านกัน
ภาพด้านหน้าของร้าน ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1930 ตอนแรกใช้ชื่อ Osteria Primo
และในปี 1986 คุณ Lea เข้ามาบริหารแทนเจ้าของเดิมพร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น Trattoria Lea
และดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันนี้
มาดูบรรยากาศในร้านกันนิดนึงเนอะ
ด้านหน้าจะมีพนักงานต้อนรับคอยนำไปที่โต๊ะ ที่จองเอาไว้
อ้อ…ต้องโทรจองโต๊ะล่วงหน้าสัก 3-4 วันจะดีมาก
จริงๆ เราจองล่วงหน้ากันเป็นอาทิตย์เลย ฮะฮะฮะ เอาให้ชัวร์ค่า
โต๊ะที่จองไว้อยู่อีกห้องนึง เดินเข้ามาในร้านสักหน่อย เรามาเร็วยังไม่มีโต๊ะอื่นเลย
การจัดโต๊ะโอเคเลยนะคะ สะอาดและมีจานรองเป็นชื่อร้านด้วย
สั่งอาหารไปแล้วระหว่างรอสั่งน้ำเปล่ากับไวน์แดงมาดื่มสักหน่อย
อาหารเรียกน้ำย่อยรวม จะเห็นว่ามีทุกอย่าง อย่างละนิดละหน่อย
จริงๆ ทานแค่นี้ก็จะอิ่มแล้วนะ สั่งมา 1 จานทาน 2 คนค่ะ แบ่งๆ กัน
เป็นอีกจานของอาหารเรียกน้ำย่อย จะเป็นขนมปังนำไปย่างแล้วราดด้วยหน้าต่างๆกันไป
ที่เป็นจะมีแบบน้ำมันมะกอกกับเกลือ ธรรมดาๆ นี่แหล่ะ หากใช้น้ำมันดีๆ จะออกมาอร่อยมาก
จะมีหน้ามะเขือแอบมีใส่พริกนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ
ต่อไปหน้าตับไก่บด อันนี้ส่วนตัวชอบมากเลย และหน้าเห็ด
สุดท้ายที่เห็นขาวๆ หน่ะหน้าไขมันหมู จะเรียกว่าเอาไขมันตรงหมูสามชั้นมาทำ
แต่ไม่ได้เอาจากดิบๆ นะคะเค้าจะเอาไปหมัก ผ่านกรรมวิธีของเค้าซะก่อน
มาถึงอาหารจานแรก ส่วนใหญ่จะเน้นคาร์โบไฮเดรตนะคะ
ในเมนูมีให้เลือกเยอะ ไม่ได้มีเฉพาะเห็ดเท่านั้น
จานนี้ชื่อว่า Gnocchi di patate al ragù
พาสต้าทำมาจากมันฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ราดด้วยซอสเนื้อ
จานนี้ชื่อว่า Tortellini al Ragù ข้างในพาสต้าจะเป็นเห็ดนะคะ
จานนี้จะคล้ายกันกับจานข้านบนต่างกันตรงจานนี้จะราดเป็นซอสเห็ดพอร์ชินี่แทน
จานนี้ดิฉันสั่งมาเองค่า พาสต้าเห็ด Tartufo nero
ตัวเห็ด Tartufo เค้าจะมีกลิ่นเฉพาะตัว เป็นเห็ดหากยาก
ไม่ได้ปลูกเองต้องไปหาตามป่าเขา ใช้หมานำทางดมกลิ่นหากัน
ราคาก็เลยแพงมาก ยิ่ง Tartufo Bianco สีขาวยิ่งแพงจ้า
จานนี้ที่เห็นราคา 12 ยูโร ประมาณ 480 บาท
ซึ่งถือว่าไม่แพงสำหรับปริมานขนาดนี้
มาถึงอาหารจานหลักกันนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกโปรตีน
จานนี้เป็นเนื้อย่างรวม จะมี ไก่ หมู และเนื้ออยู่ในจาน
จะทานคู่กับสลัดผัก หรือมันฝรั่งทอดก็อร่อยค่ะ
ส่วนจานนี้เป็นเนื้อย่างกับเห็ด Tartufo
จากรูปร้านนี้ให้เห็ดเยอะมากแทบจะไม่เห็นเนื้อที่อยู่ด้านล่างเลย
จานนี้เป็นฟองดูว์ชีสกับเห็ด Tartufo
พ่อสามีชอบมากส่งมาทานทุกครั้งเลย
เราได้แต่แอบชิมไม่กล้าทานคนเดียว กลัวอ้วนค่า
ถ้ากลัวอ้วนก็จานนี้เลยสลัดรวมเห็ดสดค่ะ อร่อยไปอีกแบบ
เบาๆ สำหรับคนรักสุขภาพ
อย่าเพิ่งอิ่มกันนะ มาทานของหวานกันก่อน
จานนี้เป็นเอแคร์ไส้ครีมช็อคโกแลต ทานคู่กับวิปปิ้งครีม
โอ้โห…จานนี้มีแทบทุกร้านทิรามิสุค่า
เสิร์ฟใส่ชามเล็กๆ ไม่เยอะไม่น้อยเกินไปพอดีๆ
อิ่มพุงกางเลย ต้องตบท้ายด้วยกาแฟเอสเพรสโซ่
น่ารักดีเนอะ ซองน้ำตาลยังเป็นชื่อร้านเลย
วันนี้เรามากันทั้งหมด 6 คน ทานอาหารเรียกน้ำย่อยไป 2 จาน
อาหารจานแรก 6 จาน อาหารจานหลัก 4 จาน มันฝรั่งทอด 1 จาน
ของหวาน 2 กาแฟ 4 น้ำเปล่า 2 ขวด ไวน์แดง 1 ขวด
ทายกันสิว่าจ่ายไปทั้งหมดเท่าไหร่…..?
จ่ายเงินไปประมาณ 140 ยูโร ค่า
ทานข้าวเสร็จจ่ายตังค์แล้ว ก็ออกไปเดินชมเมืองกันสักหน่อย
เดินย่อยอาหารสักนิด ก่อนขับรถกลับบ้านจ้า
ถ้าหากมาโอกาสอย่าลีมไปทานร้านนี้ให้ได้นะคะ ภูมิใจนำเสนอมาก
คราวหน้าไปทานร้านไหนรอชมด้วยนะคะ….ไปละค่า