คราวนี้จะพาไปกินร้านอาหารในโรงแรมระดับสามดาวกัน จะเรียกว่าร้านประจำดั้งเดิมก็ว่าได้ เพราะว่าร้านนี้เป็นลูกค้ามาตั้งแต่รุ่นคุณปู่แล้ว รู้จักเจ้าของร้านยังหลานเจ้าของร้านกันเลยทีเดียว (ที่รู้จักกะเค้าหน่ะ พ่อสามีนะคะ ไม่ใช่ตัวเอง ฮะฮะฮะ) ร้านเก่าแก่ของ Quercianella ไม่มีใครไม่รู้จัก อาหารอร่อยราคากลางๆ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารทะเล เพราะว่าเป็นเมืองติดทะเลนี่เนอะ ไม่มีอาหารทะเลได้ยังงัย ไปทานมาหลายครั้งแล้ว มีบางครั้งที่เค้าเปลี่ยนพ่อครัว รสชาติมันแปลกๆ ไป ไม่อร่อยเหมือนเดิม แต่ครั้งล่าสุดที่ไป กลับมาอร่อยและทรงคุณภาพเหมือนเดิมละ ใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมตามไปดูที่เว็ปเค้าได้เลย มีราคาอาหาร ที่อยู่ เบอร์โทรพร้อม Hotel Villa Marcherita
วันนี้พาไปทานอาหารกลางวันกันนะคะ ก่อนทานอาหารไปเดินดูบรรยากาศรอบๆ โรงแรมกันสักหน่อย เนื่องจากโรงแรมตั้งมานานแล้ว อาจจะมีสภาพทรุดโทรมลงไปบ้าง ประกอบกับเศรษฐกิจแบบนี้ คิดว่าทางเจ้าของเค้าคงไม่อยากปรับปรุงอะไรมากมายนักช่วงนี้ สมัยก่อนนั้นป้าของพ่อสามี เค้ามาเช่าห้องอยู่เป็นเดือนๆ เพื่อพักผ่อนหน้าร้อนที่ทะเล ที่นี่บรรยากาศดีติดทะเล อาหารพร้อม ตกลงราคากันได้หากพักนาน ตอนนี้ป้าแกอายุ 96 ปีแล้ว เดินทางไปไหนมาไหนลำบาก โครงการนี้เลยพับไปหลายปีแล้ว
ที่นี่มีสระว่ายน้ำให้แขกที่มาพักด้วยนะคะ
Quercianella เป็นเมืองติดทะเล แต่ที่นี่ไม่มีชายหาด มีแต่โขดหิน
ทำให้บ้างโรงแรมเค้าสร้างชายหาดเทียมพร้อมร่มเก้าอี้บริการนักท่องเที่ยว
คุณจะเช่าเหมาเป็นเดือนๆ หรือเป็นวัน ก็ได้นะคะ
วันที่ไปฟ้าปิด ขมุกขมัวนิดหน่อย ถ่ายรูปออกมาท้องฟ้าสีไม่สวยสักเท่าไหร่
ที่เมืองนี้มีที่จอดเรือให้เช่าด้วยนะคะ แต่ราคาไม่รู้จริงๆ พ่อสามีเค้าจัดการเองหมดเลย
ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายเองเอามาจากอินเตอร์เน็ตจ้า
เอ้า!!! ดูบรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำแล้ว ย้ายไปดูบริเวณร้านอาหารกันบ้างดีกว่า
ร้านอาหารจะมีทั้งในร่มและกลางแจ้ง เลือกที่นั่งตามใจชอบ (หากไม่เต็มซะก่อน)
มุมโซฟานั่งพักผ่อน ระหว่างรอเค้าจัดโต๊ะอาหารให้เรา
อยู่กลางแจ้งเพราะคนที่นี่เค้าชอบแดดจ้า
มุมเก้าอี้ในสวนเล็กๆ หากพักที่นี้ก็แวะมานั่งอ่านหนังสือจิบเครื่องดื่มเย็นๆ
เคล้าบรรยากาศทะเล ผ่อนคลายได้ดีจริงๆ
บางครั้งแอบเห็นศิลปินเค้าเอาอุปกรณ์มานั่งวาดภาพที่นี่ด้วยนะ
แอบยืนดูแป๊ปนึง กลัวเป็นการรบกวนสมาธิเค้า
ไม่มีภาพมาให้ชม วันที่เจอไม่ได้ติดกล้องไปด้วย
บันไดลงไปที่สระว่ายน้ำและโขดหินริมทะเล
ดูๆ แล้วถ้าปรับปรุงอีกนิดจะดีกว่านึ้ ค่อนข้างเก่าละ
อีกสักภาพก่อนไปนั่งโต๊ะ ทานอาหารกลางวันกัน
พนักงานเค้ามาเรียกละ
ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายเองนะคะ เอามาจากอินเตอร์เน็ต
ถ่ายโต๊ะตรงบันได ที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ …จำกันได้รึป่าว
ภาพในร้านอาหาร เค้าจะจัดแยกเป็น 2 ห้อง หากแขกเยอะถึงจะเปิดอีกห้องใช้งาน
ที่นี้มีแขกมาใช้จัดงานแต่งงานกันเยอะ สถานที่สะดวกกว้างขวาง บรรยากาศโรแมนติกดี
ไม่ได้ถ่ายเองอีกละ น่าจะเป็นภาพที่เค้าจัดโต๊ะไว้สำหรับงานแต่งงานรึป่าวนะ
สังเกตจากการจัดโต๊ะ จัดซะเต็มขนาดนี้ อันนี้ยังไม่ถือว่าเต็มที่นะเนี่ย
เลือกใช้ส้อม กะมีดไม่ถูกกันเลยทีเดียว
แต่เห็นสามีบอกว่า จริงๆ เค้าจะเริ่มจากใช้ส้อมกะมีดด้านนอกสุดก่อน
อาหารจานถัดไปค่อยเปลี่ยนเป็นอันถัดมา อันในสุดไว้ทานจานสุดท้าย
แต่ช้อนส้อมของหวานจะวางไว้ที่หัวจานอีกที
นั่งโต๊ะละสั่งอาหารกันเลยดีกว่า
ปรกติจะทานแต่เมนูเดิมๆ อาหารโปรดหน่ะคะ
วันนี้สั่งอาหารจานแรกละจานที่สอง (แบ่งทานกะสามี)
แล้วก็ของหวาน ตบท้ายด้วยกาแฟ
“Spaghetti allo Scoglio” ในเว็ปเขียนไว้ราคา 8.00 ยูโร
ส่วนตัวคิดว่าราคาน่าจะขึ้นแล้ว ปรกติตามร้านจะราคา 10-12.00 ยูโร
อาหารจานแรก สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด (เรียกอย่างนี้คงได้มั้ง)
จานนี้ตัวซอสเค้าจะใส่พริกกะมะเขือมานิดหน่อย
บางร้านไม่ใส่มะเขือเลย ตัวซอสจึงไม่มีสี
ส่วนตัวชอบแบบนี้ ร้านนี้ทำติดเผ็ดนิดๆ อร่อยดี
เมนูนี้เป็นเมนูโปรดของพ่อสามี ไม่ต้องเปิดเมนู ก็สั่งจานนี้มาทาน
จานนี้จะทานเป็นจานที่สอง หรือว่าทานเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยก็ได้นะคะ
สั่งมาเป็นถาดทานกัน 3-4 คน แต่นึกชื่อเมนูไม่ออก
รอให้สามีกลับบ้านมาก่อน ค่อยถามอีกทีนะคะ ว่าชื่ออะไร
ร้านเค้าไม่ได้เสิร์ฟแบบนี้นะคะ พอดีตักมาใส่จานตัวเอง แล้วถ่ายรูป
มีเลยออกมากระจัดกระจายอย่างที่เห็น
เค้าให้ขนมปังมาทานกะอาหาร หันไปหันมาหมดก่อนอาหารมาซะอีก
แสดงว่าเด็กเล็กเด็กโต หิวกันมากจริงๆ
อาหารจานที่สองอีกอย่างนึง
“Frittura mista di pesce con paranza” ราคาประมาณ 14-15.00 ยูโร
บางร้านจะมีมันฝรั่งทอดมาให้ด้วยนะคะ
จานนี้แบ่งกันทาน 3 คนเลยทีเดียว
ลืมบอกไป ทานอาหารทะเลฉะนั้นอย่าลืมสั่งไวน์ขาวมาดื่มนะจ๊ะ
ชักจะอิ่มเกินไปละ ก็เลยถามทางร้านเค้าว่ามีเครื่องดื่มที่เราชอบรึป่าว
แต่จำชื่อจริงๆ ของเครื่องดี่มไม่ได้อะ เรียกแบบผิดๆ ไปว่า “สกรุ๊ปปีโน่ะ”
สามีที่รู้ใจจะรู้ว่าเราหมายถึงอะไร ฮะฮะฮะ
หน้าตาจะแตกต่างกันไปตามแต่ร้านอาหารเค้าจะจัดมาให้นะคะ
ส่วนประกอบหลักๆ จะเป็นไอศกรีมเลมอน ว็อคก้า ++++ ความลับของทางร้านนั้นๆ
รสชาติจะออกหวานๆ เปรี้ยวๆ มึนๆ ว็อคก้าหน่อยๆ
ดื่มหลังอาหารช่วยย่อย (อันนี้เค้าบอกมาอีกทีนะคะ)
ส่วนตัวดื่มเพราะอร่อยดีจ้า….ช่วยย่อยหรือช่วยอ้วนก็ไม่รู้
ตบท้ายด้วยแกแฟเอสเฟรสโซ่ (แบบอิตาเลี่ยน)
จริงๆ ต้องเรียกว่า “ริสเตร็ดโต่ (Ristretto)” หากอยากดื่มแบบนี้ที่ไทยนะคะ
อิ่มจนพุงก้างเลย….เดินย่อยกลับบ้านก่อนดีกว่า
คราวหน้าพาไปกินที่ไหนดีน้า…ขอไปค้นดูข้อมูลก่อนนะจ๊ะ