โดยปรกติแล้วช่วงปิดเทอมของอิตาลีจะอยู่ในช่วง กลางเดือนมิถุนายนและยาวถึงประมาณสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน ก็จะเปิดภาคเรียนใหม่ ที่นี่เค้าหยุดยาว 3 เดือน เรียกได้ว่าปิดภาคปีกันเลยทีเดียว นี่ยังไม่นับวันหยุดเทศกาลอีกนะ หยุดกันเยอะ แถมเรียกเรียนวันละ 5-6 ช่วงโมงก็กลับบ้านละ มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะเราว่า เพราะเค้าตัดวิชาที่เค้าคิดว่าไม่จำเป็นออก เช่นพวกสังคม พื้นฐานอาชีพ เพราะเค้าคิดว่าพวกนี้เป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่จะต้องสอนกันเอง เฮ้อ!! ใครเค้าจะมีเวลามานั่งสอนมารยาทลูกๆ ทุกวันเนอะ ผลที่ออกมาทำให้วัยรุ่นที่นี่มารยาททางสังคม และการเคารพผู้ใหญ่มันค่อยๆ หดลงไป ไอ้เราคนไทยอาจจะรู้สึกไม่ถูกใจหรืออาจจะขัดๆ กับวัฒนธรรมเราบ้าง ต้องอาศัยธรรมะเข้าช่วย ปล่อยวางเสียบ้างเนอะ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนได้อย่างใจเราคิด เค้าก็มีชีวิตของเค้า เราก็มีชีวิตแบบเรา เอาเป็นว่าทำให้ใจเราสุขก็เป็นพอ เอ้า!!! นี่ป้าบ่นอะไรซะยาวเนี่ย ไม่เห็นจะเกี่ยวกะพาไปเที่ยวเลย แฮะ แฮะ ออกนอกเรื่องไปซะยาว วกกลับมาเรื่องของเรากันดีกว่า จะบอกว่า ช่วงปิดเทอมยาวของที่นี่ตรงกับฤดูร้อน โดยปรกติหากว่าครอบครัวเราไม่กลับไปเยี่ยมบ้านที่ไทย ก็จะไปพักผ่อนกันที่บ้านที่อยู่ติดกับทะเล (จริงๆ เป็นบ้านของพ่อแม่สามี) ทำกันอย่างนี้จนเป็นธรรมเนียมปฎิบัติกันไปแล้วหล่ะ ปีนี้ก็เหมือนกันกลับไทยช่วงเมษายนไปแล้ว ดังนั้นเรามีเวลาพาเที่ยวเมืองนี้ 1 เดือนเต็มๆ กันเลยทีเดียว ขอบอกว่าเตรียมครีมกันแดด แว่นตา หมวกและชุดว่ายน้ำมาด้วยนะจ๊ะ เอ้า!!! ไปกันเล๊ย
Quercianella เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ทางใต้ของจังหวัด Livorno อยู่ติดกับทะเล แต่ที่นี่ไม่ได้มีชายหาดนะคะ จะมีแต่โขดหิน ทะเลที่นี่ก็ถือว่าขึ้นชื่ออยู่เหมือนกันเพราะน้ำทะเลสะอาด ไม่ค่อยมีแมงกะพรุน และน้ำจะอุ่นน่าว่าย เดินทางกันด้วยรถยนต์จากบ้านที่ฟลอเรนซ์ ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาทีแล้วแต่ว่ารถจะติดรึป่าว เพราะเป็นถนนเดียวกันกับทางไปเมืองปิซ่า รถบนถนนจึงเยอะหน่อย ถ้ายิ่งเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ละก็ทำใจนิดนึงนะคะ แต่ยังงัยก็ดีกว่าขับในกรุงเทพเยอะ ฮะฮะฮะฮะ ทางทีดีหนีรถติดนะ ให้ออกช่วงเช้าๆ หรือไม่ก็เที่ยง เวลาเค้าทานข้าวกัน หรือไม่ก็ดึกไปเลย หลังสามทุ่มอะไรประมาณนี้ จะได้หนีพวกรถบรรทุกด้วย ครอบครัวทางน้องสาวสามีเค้าชอบภูเขามากกว่าเลือกที่จะพักที่นั่น 2 สัปดาห์มาพักที่ทะเลอีก 2 สัปดาห์ แต่ครอบครัวเราเด็กๆ และคุณสามีไม่ชอบอะไรที่ออกกำลังกันมาก มาที่ทะเลอย่างเดียวเลย
ระหว่างการเดินทางก็แอบถ่ายรูปมาฝากผ่านอุโมงค์บ้างผ่านทุ่งดอกทานตะวัน ไร่มะกอก ไร่องุ่น เพลินๆ ดี
ขับมาถึงตรงนี้แสดงว่าขับผ่านทานแยกไปเมืองปิซ่าและ เมืองลิโวโน่แล้วนะคะ
ใกล้จะถึงที่หมายกันแล้ว วันนี้รถไม่เยอะ เพราะว่าเป็นธรรมดา บางคนเค้ายังทำงานกันอยู่
สังเกตว่าเห็นรถจอดข้างทางเยอะแบบนี้ เค้ามาหาที่เหมาะ อาบดาด และเล่นน้ำที่โขดหินข้างล่างโน่นนะคะ
มาแต่เช้าจะได้ที่จอดดีๆ ไม่โดนใบสั่ง อิอิอิ ที่ไหนฟรีไม่เสียตังค์คนจึงเยอะแบบนี้แหล่ะ
ส่วนตัวชอบถนนเส้นนี้นะ มันสวยดีด้านข้างจะเลียบกับทะเลไป ถ้าเป็นช่วงพระอาทิตย์ตกยิ่งสวย
ถนนจะมีทางโค้งเยอะ มีทางขึ้นทางลงเนินบ้าง ต้องขับระวังๆ ด้วย แถมระวังคนข้ามถนนด้วยนะคะ
ถึงแล้วจ้า….Quercianella ถ่ายมาถึงถนนเข้าบ้านกันเลยทีเดียว
วันนี้ฟ้าสวยถ่ายรูปอะไรก็ดูดีเนอะ (บ้า ป่าววะเรา)
นี่คือภาพบ้านพักที่เราอยู่กันนะคะ มี 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
และมีห้องครัว กับห้องรับแขกเล็กๆ รองรับคนได้ 10 คน
เอาเข้าจริงๆ แล้ว บ้านหลังนี้จะมาอยู่แค่ช่วงฤดูร้อน อย่างมากปีละ 2 เดือนแค่นั้น
หลังจากนั้นก็ปิดล็อค ตอนไหนจะมาก็จ้างแม่บ้านทำความสะอาดไว้รอ
ขอดีของบ้านหลังนี้คือ มีระเบียงหน้าบ้านก้วางมาก สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารได้ 10 ที่นั่ง
ยังมีที่เหลือให้เด็กๆ ได้เล่นกันอีก
ที่เมืองนี้มีรถไฟผ่านด้วยนะคะ ลองตรวจดูว่ามีเวลาไหนบ้างตามไปดูที่ลิงค์ได้เลย
http://www.e656.net/orario/stazione/quercianella.html
วันนี้พาเดินเที่ยวถนนหลักในเมืองละกันเนอะ
มีร้านค้าอยู่อย่างละร้านได้มั้งจะมีเยอะหน่อยคงเป็นร้านอาหาร บาร์กาแฟ และโรงแรม
เดินตามมาสามีดิฉันมาเลยจ้า แกจะพาไปทัวร์
เดินเอาจะดีกว่านะคะ เอารถมาหาที่จอดรถยากมากกกกกก
นี่คือเส้นทางที่แม่สามีเดินประจำทุกวัน เช้าๆ แกจะเดินออกกำลังกายเลียบทะเล
พูดคุยกะคนรู้จัก แวะซื้อผักผลไม้ แล้วกลับบ้าน ยกเว้นวันไหนฝนตกแค่นั้นแหล่ะ
มาดูกันว่า วิวจะดีรึป่าวเนอะ
ยังเช้าอยู่ไม่ยังค่อยมีคนมาจับจองโขดหินนอนอาบแดดกัน
คิดว่าทางเมืองนี้เค้าทำทางเดินเล็กๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวเดินชมเมืองนะ
ในรูปจะให้ปราสาทที่อยู่บนเนินเขา ชื่อว่า “Castello Sonnino “
เป็นปราสาทเก่าแก่ของเมืองเลยก็ว่าได้ มีเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาด้วย
แต่เราจำไม่ได้หมดอะนะ เอาไว้ไปถามผู้รู้จริง แล้วจะมาอัพเดทให้นะคะ
เอารูปไปดูก่อนเพลินๆ
ไปเจอรูปนี้เข้าจากเว็ป La Costa Azzurra di Quercianella ขอขอบคุณด้วยนะคะ
อย่าเพิ่งเหนื่อยนะ ยังไม่ไปถึงไหนเลยเดินกันต่อดีกว่า
โดยปรกติทุกเช้าประมาณ 10 โมงจะออกเดินกับแม่สามีเพื่อที่จะไปยังหาดที่เราได้เช่าเอาไว้
เดี๋ยวเดินถึงแล้วจะบอกว่าเป็นที่ไหนนะคะ วันนี้อากาศดีใช่ป่าว
ร้อนกำลังดีเลย อุ่นเครื่องด้วยการเดินเดี๋ยวไปถึงก็จะได้ลงน้ำได้เลย
ถ้าไม่ใช่ฤดูร้อนที่เมืองนี้จะเงียบมาก มีแค่ไม่กี่ครอบครัวส่วนใหญ่จะคนแก่ซะด้วย
ภาพอาคารที่มีหน้าต่างเยอะๆ นั่นแหล่ะ บ้านพักคนชรา อีกฟากนึงเป็นทะเล
ใหญ่เหมือนกันนะ มีสวนกว้างมาก เข้าใจว่าเป็นเอกชนทำ เพราะเสียค่าบริการเยอะทีเดียว
ถึงแล้วจ้า หาดที่ทางครอบครัวเราเช่าเอาไว้เช่าที่จอดเรือทั้งปี แต่เช่าร่มที่หาดไว้แค่ 2 เดือน
ในภาพเป็นที่อาบแดดเล่นน้ำฟรีนะคะ แต่คนอาจจะเยอะนิดนึง
เช้าขนาดนี้ก็มีคนมาจองที่เอาไว้ละ ดูดีๆ มีเรือแคนนูด้วย
เราชอบรูปนี้สีสวยดี ว่ามั๊ยคะ ภาพนี้ถ่ายมาก็เป็นแบบนี้ ไม่ได้แต่งสีอะไรเลย
ถึงแล้วจ้า Porticciolo del Chioma ตรงหาดที่มีร่มกางเยอะๆ นั่นแหล่ะ
เอ้า…ก็ไหนว่าที่นี่ไม่มีหาดทราย ไม่มีจริงๆ นะคะ ที่เห็นเค้าทำขึ้นมาเอง
โดยเอาทรายมาเทลงไปทำเป็นหาดปลอมๆ ขึ้นมา
ที่นี่เค้ามีบริการโรงแรม อพาร์ทเม้นท์ ร้านอาหาร และที่จอดเรือให้เช่าด้วยนะ
เรื่องราคาไม่รู้จริงๆ แต่แอบได้ยินพ่อสามีคุยกะเจ้าของเค้าว่าปีนี้ขึ้นราคาเป็น 2000 ยูโร
ไอ้ 2000 ที่จ่ายไปน่าจะเป็นค่าจอดเรือ 1 ปี และเช่าร่ม 2 เดือน
ที่นี่เค้ามีกิจกรรมให้ทำเยอะอยู่นะเราว่า
มีเรือปั่นให้เช่า แคนนู คายัค โรงเรียนสอนดำน้ำ มีกิจกรรมให้เด็กๆ ร่วมสนุกประจำ
อย่างเช่น วาดภาพจากสีบ้าง เอาพาสต้ามาทำบ้าง แข่งจับปูปลา แข่งเต้นด้วยนะ
ปีนี้ดีหน่อยที่ทะเลสงบมาก น้ำทะเลสะอาดใสน่าว่ายเล่นเนอะ
รูปมีเยอะมาจนไม่รู้จะเอารูปไหนมาลง ฮะฮะฮะ ดูบรรยายกาศไปเพลินๆ นะจ๊ะ
อยู่ๆ วันนึงวันที่ทะเลสงบท้องฟ้าแจ่มใส เรามองเห็นอะไรมองไกลๆ คล้ายแมงมุมน้ำ ฮะฮะฮะ
เห็นเด็กวิ่งไปดูอะไรกัน ไปมั่งดีกว่า โชคดีที่พกกล้องติดตัวไปด้วย
เห็นคลับเซิร์ฟหลายสิบคน คาดว่าน่าจะพายมาจากเมืองลิวอร์โน่ ไปที่ไหนก็ไม่รู้
เก่งเนอะทรงตัวอยู่ได้ดูเหมือนง่ายจัง เราเคยลองอย่าว่าแต่ยืนเลย แค่จะขึ้นไปนั่งยองๆ ยังยากเลย โฮะโฮะโฮะ
ความสามารถเราไม่ถึงอะนะคะ
วันไหนเบื่อๆ ก็พาเด็กๆ ขึ้นเรือลำน้อยของพ่อสามีไปว่ายน้ำไกลๆ บ้าง ไปตกปลาบ้าง (ตกปลาได้แต่ตัวเล็กๆ)
ต้องมีใบอนุญาตขับเรือนะคะ ไม่ใช่ใครๆ ก็ขับได้ เพราะมีตำรวจน้ำเค้าคอยตรวจดูอยู่
เหมือนตรวจจับใบขับขี่มอเตอร์ไซด์บ้านเราเลย
เอ้า…มาดูบรรยากาศบนเรือกัน ใครเมาเรือจะรอบนฝั่งก็ได้จ้า
เนื่องจากเรือลำเล็ก จะโคลงเยอะหน่อย ส่วนตัวไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่
ภาพบรรยากาศมุมไกลๆ ของ Chioma
ไม่รู้ทำไมวันที่ถ่ายรูปนี้ ไม่มีคนเลยแฮะ
ส่วนตัวเป็นคนชอบบรรยากาศใกล้ค่ำ ท้องฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู ม่วงนิดๆ แต่ก็แอบมีสีฟ้าหน่อยๆ
ดูเหงาๆ เงียบๆ ดูจากของจริงสีจะสวยกว่านี้มาก ถ่ายรูปออกมาแล้ว
กล้องเป็นระบบอัตโนมัติ ปรับให้เองตามอารมณ์กล้อง
แต่ก็พอดูได้เนอะ
วันดีคืนดีที่ Chioma เค้าจะมีร้านอาหารเฉพาะกิจแบบนี้
จัดโดยน่าจะเรียกว่ากลุ่มคนรักการตกปลา แล้วมีฝีมือในการทำอาหารมารวมตัวกัน
ดูที่จานกะที่นั่นทานนะคะ เฉพาะกิจจริงๆ ทานอาหารทะเลสดๆ อร่อยราคาถูก
แต่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ซะมากกว่า
วันนี้ที่ทาน จะมีขนมขบเคี้ยวเรียกน้ำย่อย อาหารจานแรกกะจานที่สอง ตบท้ายด้วยของหวาน
มีไวน์ขาว น้ำอัดลม น้ำเปล่าให้ดื่มไม่อั้น
ราคาคนละ 12 ยูโร โอ้ย….หาไม่ได้หรอกคะราคานี้หากไปนั่งทานที่ร้านอาหารจริงๆ หน่ะ
เอาภาพวันที่ทะเลสงบ กับวันที่ทะเลบ้ามาให้ชม
มันสวยละแบบนะเราว่า
วันที่ทะเลสงบจะเห็นไปว่ายน้ำเยอะ แต่พอวันที่มีคลื่นลมเยอะๆ จะให้คนไปเล่นเซิร์ฟ
มันก็ได้อีกอารมณ์นึง
วันที่ถ่ายรูปนี้ไม่ได้พกกล้องตัวเองไปด้วย ใช้มือถือถ่าย
รูปที่ออกมาไม่ค่อยแจ่มสักเท่าไหร่ ทนทนดูหน่อยละกันนะคะ
วันที่มีคลื่นลมแรงจะลงว่ายน้ำไม่ได้ ก็เลยเดิมชมทะเลไปเรื่อยๆ
บังเอิญไปเจอผู้คนยืนออกันอยู่ใต้ เอ…เรียกว่าอะไรหว่า สะพานก็ไม่ใช่ กำแพงกันน้ำละกัน
ไอ้เราก็สงสัยไปยืนกันทำไม พอเห็นคลื่นใหญ่ๆ ซัดมาเท่านั้นแหล่ะ
เข้าทันทีว่ามายืนเล่นน้ำกันนั่นเอง ประหนึ่งว่าเล่นสงกรานต์ธรรมชาตินั่นเอง
เอ้า…เดินสำรวจกันต่อดีกว่า
วิวทะเลแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนึงนะคะ
แต่ระวังกล้องจะสกปรก เพราะละอองน้ำทะเลนี่ตัวดีนักแล
กลับบ้านได้งานทำความสะอาดเลนส์กล้องมาด้วย ฮะฮะฮะ
รูปมีเยอะมากเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอารูปไหนมาให้ดู
จะตัดทิ้งไปก็เสียดาย ลงรูปเยอะก็กลายเป็นว่าเนื้อหาหัวข้อนี้ยาวมาก
วันนี้มีงานเทศกาลประจำปีของเมือง
เรียกว่า เป็นงานรำลึกบุญคุณของทะเลสำหรับคนหาปลา
เค้าจะเอาหลอดไฟสีต่างๆ ประดับเรือของตัวเองแล้วแล่นผ่านเมืองไปโบสถ์
แล่นกลับมาที่จอดเรือจากนั้นหลวงพ่อจะทำพิธีอีกที
น่าจะคล้ายๆ กับการบวงสรวงพระแม่คงคาบ้านเรานะ
เราไปดูบรรยากาศในงานกันนะคะ
โชคดีที่วันนี้คลื่นลมทะเลไม่แรง ฝนไม่ตก
ถ่ายรูปตอนกลางคืนถ่ายยากมาก ใช้แฟลชก็ไม่สวย
ไม่ใช้แฟลชก็จะออกมามืดๆ อย่างที่เห็นนี่แหล่ะค่ะ
จบพิธีละ ค่อนข้างดึกทีเดียว
มีคนมาคอยชมเยอะมาก เดินเบียดกันเทียบตกทะเล
ปีนี้มีเรือของที่บ้านเข้าร่วมด้วยนะแต่ติดไฟไม่สวยเลย
ปีหน้าเอาใหม่ให้แจ่มกว่าเดิม…สัญญาจ้า
พอแค่นี้นะคะ สำหรับเมืองนี้ แค่นี้ก็ยาวมาแล้ว
เอาไว้คราวหน้าจะหาข้อมูลเมืองใกล้ๆ ที่แวะไปชมมาฝาก…ไปแล้วค่า
I’m now not sure the place you’re getting your
info, however good topic. I must spend some time studying more or working out more.
Thank you for magnificent info I used to be searching for this information for my mission.